วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สนามของแรง

สนามของแรง


สนามของแรงก็คือบริเวณในอวกาศที่สามารถเกิดแรงกับวัตถุที่วางอยู่ในบริเวณนั้นได้
อย่างเช่น
1 สนามโน้มถ่วงหรือสนามแรงโน้มถ่วง คือบริเวณที่สามารถเกิดแรงโน้มถ่วงหรือ
น้ำหนัก
เมื่อมีวัตถุที่มีมวลอยู่ในสนามโน้มถ่วง วัตถุนั้นก็จะมีน้ำหนัก
ถ้าวัตถุไม่อยู่ในสนามโน้มถ่วง วัตถุนั้นก็จะไม่มีน้ำหนัก


2 สนามไฟฟ้าหรือสนามแรงไฟฟ้า คือบริเวณที่สามารถเกิดแรงไฟฟ้าหรือแรงแม่เหล็กไฟฟ้า
เมื่อวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าอยู่ในสนามไฟฟ้า วัตถุนั้นก็จะถูกแรงจากสนามไฟฟ้ากระทำ
แหล่งที่มา http://www.vcharkarn.com/vcafe/56674
คลื่น
ชนิดของคลื่น
คลื่นเป็นปรากฎการณ์ที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่รูปแบบหนึ่ง คลื่นสามารถจำแนกตามลักษณะต่าง ๆได้ดังนี้
1. จำแนกตามลักษณะการอาศัยตัวกลาง
1.1 คลื่นกล (Mechanical wave) เป็น คลื่นที่เคลื่อนที่โดยอาศัยตัวกลางซึ่งอาจเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซก็ได้ ตัวอย่างของคลื่นกลได้แก่ คลื่นเสียง คลื่นที่ผิวน้ำ คลื่นในเส้นเชือก เป็นต้น
1.2 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic waves) เป็น คลื่นที่เคลื่อนที่โดยไม่อาศัยตัวกลาง สามารถเคลื่อนที่ในสุญญากาศได้ เช่น คลื่นแสง คลื่นวิทยุและโทรทัศน์ คลื่นไมโครเวฟ รังสีเอกซ์ รังสีแกมมา เป็นต้น

2. จำแนกตามลักษณะการเคลื่อนที่
2.1 คลื่นตามขวาง (Transverse wave) เป็น คลื่นที่อนุภาคของตัวกลางเคลื่อนที่ในทิศตั้งฉากกับทิศการเคลื่อนที่ของ คลื่น ตัวอย่างของคลื่นตามขวางได้แก่ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สำหรับคลื่นน้ำ ซึ่งเป็นคลื่นตามขวาง เมื่อเกิดคลื่นโมเลกุลของน้ำจะสั่น ขึ้นลงในแนวดิ่ง ตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของคลื่น ดังรูป
. จำแนกตามลักษณะการเกิดคลื่น


3.1 คลื่นดล (Pulse wave) เป็นคลื่นที่เกิดจากแหล่งกำเนิดถูกรบกวนเพียงครั้งเดียว
3.2 คลื่นต่อเนื่อง (Continuous wave) เป็นคลื่นที่เกิดจากแหล่งกำเนิดถูกรบกวนเป็นจังหวะต่อเนื่อง


สมบัติของคลื่น (wave properties)

คลื่นทุกชนิดแสดงสมบัติ 4 อย่าง คือการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบน
การสะท้อน (reflection) เกิดจากคลื่นเคลื่อนที่ไปกระทบสิ่งกีดขวาง แล้วเปลี่ยนทิศทางกลับสู่ตัวกลางเดิม

การหักเห (refraction) เกิดจากคลื่นเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่ต่างกัน แล้วทำให้อัตราเร็วเปลี่ยนไป

การเลี้ยวเบน (diffraction) เกิดจากคลื่นเคลื่อนที่ไปพบสิ่งกีดขวาง ทำให้คลื่นส่วนหนึ่งอ้อมบริเวณของสิ่งกีดขวางแผ่ไปทางด้านหลังของสิ่งกีดขวางนั้น

การแทรกสอด (interference) เกิดจากคลื่นสองขบวนที่เหมือนกันทุกประการเคลื่อนที่มาพบกัน แล้วเกิดการซ้อนทับกัน ถ้าเป็นคลื่นแสงจะเห็นแถบมืดและแถบสว่างสลับกัน ส่วนคลื่นเสียงจะได้ยินเสียงดังเสียงค่อย
สลับกัน
แหล่งที่มา http://www.icphysics.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=54

1 ความคิดเห็น: